จริงอยู่อาการพวกนี้ บางทีการซื้อครีมหรือยาจากร้านขายยามาทาเองนั้น บางครั้งก็อาจจะทำให้อาการหายไปได้เหมือนกัน แต่ในบางราย บางทีใช้ยา ไปตั้งเยอะแล้วอาการก็ยังไม่ดีขึ้น แถมดูเหมือนจะยิ่งแย่ลงด้วยซ้ำ...สำหรับบทความนี้เราจะมาโฟกัสกันที่ว่า..."ทำไมปากถึงแห้ง" ยิ่งขึ้นในฤดูหนาว
...สาเหตุที่ริมฝีปากแห้ง หรือแตกง่ายกว่าบริเวณอื่น เนื่องจากบริเวณริฝีปากไม่มีต่อมไขมัน เพื่อเคลือบป้องกันผิวไม่ให้น้ำระเหยออกไปเหมือนส่วนอื่นของผิวหนัง และเป็นส่วนที่ต้องสัมผัสกับอาหารหรือเครื่องดื่ม รวมทั้งสารเคมีต่างๆ โดยปกติแล้วแม้ว่าจะไม่ใช่ในฤดูหนาวที่มีอากาศเย็น ผนวกกับความชื้นในอากาศที่ลดลงกว่าปกติ ปากก็แห้งก็แตกง่ายอยู่แล้ว ซึ่งมันมีสาเหตุที่ผู้เขียนหารวบรวมมารับใช้คุรผู้อ่านเป็นข้อๆดังนี้...
- ดื่มน้ำน้อยเกินไป ถ้าคุณดื่มน้ำน้อยผิวทั่วร่างกายรวมทั้งริมฝีปากก็จะแห้ง เพราะขาดน้ำ
- การเลียริมฝีปากบ่อยๆ ในช่วงแรกอาจรู้สึกว่าริมฝีปากชุ่มชื่น แต่สักพักริมฝีปากจะแห้ง เนื่องจากน้ำระเหยไปและเอนไซม์ที่ทำหน้าที่ช่วยย่อยอาหารในน้ำลายจะทำให้ริม ฝีปากแห้งมากขึ้น
- แสงแดดและรังสี การถูกแสงแดดเป็นเวลานานต่อเนื่องกัน ทำให้ริมฝีปากสัมผัสกับรังสีอัลตราไวโอเลต(UV) หรือการฉายรังสีจากการรักษา ซึ่งเป็นตัวทำลายความยืดหยุ่นของเซลล์ทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น เกิดรอยเหี่ยวย่น
- สภาพอากาศ อากาศร้อนและมีลมแรง กับ อากาศเย็นและแห้ง มีผลทำให้ริมฝีปากแห้งหรือแตกเป็นขุยมากขึ้น
- แพ้สารบางอย่าง เป็นไปได้ว่าสารบางอย่างในลิปสติกหรือเครื่องสำอาง เช่นสารประกอบที่ทำให้เกิดปัญหาที่สุดคือ สี กลิ่น น้ำหอม ลาโนลิน (สารที่ให้ความชุมชื้น) และสารกันบูด ทำให้คุณเกิดอาการแพ้
- การขาดวิตามิน คนที่ขาดวิตามินบี ริมฝีปากจะแตกง่ายกว่าคนทั่วไป เพราะวิตามินบีมีความสำคัญต่อผิวหนังและเยื่อบุต่างๆ
- อาการร้อนใน เนื่องจากอาการร้อนในจะทำให้น้ำในร่างกานสูญเสียมากขึ้นรวมทั้งริมฝีปากด้วย
สำหรับวิธีป้องกัน เพียงแต่ตัวเราเองต้องดื่มน้ำให้ได้ประมาณ 8 แก้วต่อวัน ห้ามเลียริมฝีปาก สถานที่ใดที่มีแสงแดดจัดถ้าเลี่ยงได้ก็เลี่ยงซะ หลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสเค็มจัด ถ้าจะให้ดีควรหาน้ำตะไคร้มาดื่มบ้าง เนื่องจากมีสรรพคุณแก้ร้อนในกระหายน้ำ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น