เหตุการณ์ทั้งหมดมันเกิดขึ้นรวดเร็วโดยที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน ...หลังจากที่ตัวเธอได้รับสายโทรศัพท์สายหนึ่ง ตอนนั้นเป็นเวลาประมาณบ่าย 2 โมงของเมื่อ 3 วันที่แล้ว เมื่อเสร็จธุระจากการสนทนากับคนปลายสาย เธอกลับมีสีหน้าเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด เธอหันซ้ายหันขวา ปากก็บ่นพึมพัม อากัปกริยาเงอะงะ งวยงง ดูเลื่อนลอยเป็นพักๆ เหมือนคนขาดสติ ...ประมาณสัก 2-3 นาทีผ่านไป ตัวเธอเหมือนกำลังจะรวบรวมสติสตังได้อีกครั้ง แล้วหันหลังกลับเพื่อเดินไปที่โต๊ะทำงานของเธอ...เธอเก็บรวบรวมเอกสารทุกอย่างเข้ามารวมเป็นกองเดียวกัน มือข้างหนึ่งคว้ากระเป๋าสะพายประจำตัว แล้วเดินออกจากที่นั่นอย่างรวดเร็ว คงไม่ทันได้ยินคำถามไล่หลังของเพื่อนๆด้วยซ้ำไป
เมื่อเดินทางมาถึงจุดหมายซึ่งอาจจะเป็นที่ใดที่หนึ่ง...ที่ตัวเธอได้คุยและตกลงกับคู่สนทนาเอาไว้...เธอก้าวลงจากรถ พร้อมกับยกแขนข้างหนึ่งขึ้นมาดูเวลา...3 ชั่วโมงเศษ ที่ต้องเสียไปกับการขับรถมาถึงที่นี่...ในขณะที่เธอมองออกไปรอบๆเพื่อสำรวจสถานที่ก็เป็นจังหวะเดียวกับโทรศัพท์มือถือของเธอดังขึ้น...เธอถามไปยังปลายสายถึงทิศทาง...ของสถานที่ๆได้นัดกันเอาไว้...เมื่อมองออกไปตามเสียงบอกอย่างเป็นขั้นตอน ทำให้เธอเจอกับรีสอร์ทหลังหนึ่ง ตั้งอยู่ทางขวามือของเธอโดยเยื้องขึ้นไปทางด้านหน้าพอประมาณ เธอวางโทรศัพท์ลงเมื่อเห็นใครคนหนึ่งโบกมือไหวๆ...เธอจึงก้มหน้าก้มตารีบเดินไปยังที่นั้นโดยที่ไม่ทันสังเกตว่า มีใครคนหนึ่งจ้องมองการเคลื่อนไหวของเธอแทบไม่กะพริบตา...
เธอหายเข้าไปในรีสอร์ทกับผู้หญิงคนที่กวักมือเรียก ถึงร่วมพูดคุย หรืออะไรสักอย่างอยู่ในนั้นร่วม 3 ชั่วโมง...หลังจากที่เธอเดินกลับออกมาอีกครั้งก็เป็นเวลา เกือบ 3 ทุ่ม...ลักษณะกึ่งเดินกึ่งวิ่งของเธอ สลับกับการยกมือขึ้นปาดน้ำตาที่แก้มเป็นบางครั้ง มันก็ยิ่งทำให้ใครคนนั้นที่เฝ้ามองการเคลื่อนไหวของเธอ ...ดูร้อนรนและกระสับกระส่ายมากยิ่งขึ้น...เสียงดัง ปิ๊ด ปิ๊ด ของรีโมท เธอดึงประตูด้านข้างคนขับให้เปิดออก แต่เธอกลับยืนหลับตานิ่งอยู่สักครู่ เหมือนสมองกำลังครุ่นคิดใคร่ครวญอะไรบางอย่าง ที่ดูสับสนและหนักหน่วงเอาการ...
เวลาตี 3 เศษ...ในคืนเดียวกันนั้น...เสียงโทรศัพท์ได้ดังขึ้นที่บ้านของเธอ กินเวลานานพอสมควรกว่าที่จะมีใครสักคนตื่นขึ้นมารับสาย...และก็เป็นคุณแม่ของเธอ ที่คงจะทนนอนฟังเสียงโทรศัพท์เข้าไม่ไหว ซึ่งดูเหมือนมันจะดังกว่าปกติในคืนอันสงบเงียบเช่นนี้...เปรี๊ยะ !!!...เสียงโทรศัพท์ที่บัดนี้ได้ร่วงหลุดจากมือของคุณแม่ ตกลงกระแทกพื้นแตกกระจาย เสียงนั้นมันดังพอที่จะปลุกทุกคนในบ้านให้ตื่นขึ้น หลังจากที่คุณแม่ได้รับทราบอะไรบางอย่างจากคู่สนทนา แล้วร่างของคุณแม่ก็พลอยร่วงผล็อยหมดสติลงไปนอนแน่นิ่งกับพื้น ก่อนที่ใครสักคนในบ้านจะเดินมารับร่างนั้นได้ทัน....
สารพิษบางอย่างที่เธอกินเข้าไปในคืนวันเกิดเหตุนั้น มันทำให้ วันนี้เป็นวันที่ 3 แล้วที่ร่างของเธอยังคงไม่ได้สติ...น้ำตาของผู้ที่เป็นพ่อ เป็นแม่ และ ญาติพี่น้องทุกคน...หลั่งไหลออกมาแทบไม่ขาดสายในทุกวันที่ได้มาเฝ้าดูอาการ...หรือ แม้แต่ผู้ชายคนหนึ่ง ผู้ซึ่งได้สะกดรอยตามเธอไปในคืนวันนั้น จนในที่สุดก็เป็นคนช่วยนำเธอมาส่งที่โรงพยาบาลแห่งนี้....ความรักและความปรารถนาดีที่เขามีให้กับเธอมันมากมาย และไม่เคยเปลี่ยนแปลง ยังคงเฝ้าห่วงใย ติดตามความเคลื่อนไหวของเธอตลอดเวลาในทุกครั้งที่มีโอกาส แม้ว่าในครั้งหนึ่งก่อนหน้านั้น เป็นเธอเองที่ปฏิเสธความรักที่เขาได้มอบให้ แล้วไปเลือกใครอีกคนเข้ามาแทนที่...
ไม่มีใครรู้ว่าเธอเข้าไปในรีสอร์ทแห่งนั้น ไปเจอะเจอกับอะไรมาบ้าง...นอกจากตัวเธอ กับแม่สาวคนนั้น...ถ้าหากในตอนนี้เธอมีโอกาสได้ตื่นขึ้นมาดูคนที่เป็นพ่อ เป็นแม่ แล้วก็ยังมีคนที่รักที่ห่วงใยเธอ ทุกๆคนต้องเคร่งเครียด เศร้าโศกเสียใจ เสียน้ำตา หัวใจแทบสลาย...เธอจะรู้สึกอย่างไรบ้างหนอ...คุ้มหรือไม่กับเหตุการณ์อะไรสักอย่างที่เธอไปเจอ ...และต้องการจะแลกกับสิ่งนั้นด้วยการฆ่าตัวตาย...มันหาใช่แต่เพียงชีวิตของเธอเท่านั้นที่ต้องสูญเสีย...เธออาจจะได้รู้และก็เข้าใจ...ถ้าในเวลานี้...เธอมีโอกาสลืมตา...ขึ้นมองดูพวกเขา...อีกครั้ง...!!!
บทความจาก :
นำเสนอโดย :
http://dharmaishere.blogspot.com
https://www.facebook.com/kanlakraung1.sport
https://www.facebook.com/kanlakraung1.story
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น