จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันอังคารที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2558

อธิษฐานบารมี...ความสำคัญใหญ่ยิ่ง...ที่ไม่ควรมองข้าม...!!!

          อธิษฐานบารมี...เป็นหนึ่งในสิบบารมี (ทศบารมี) ที่มีความสำคัญยิ่ง...บารมี แปลว่าเต็ม อธิษฐาน แปลว่า การตั้งใจ มีความตั้งใจเต็มอย่างหนึ่งอย่างใดโดยเฉพาะ การตั้งใจไว้อย่างนั้นย่อมมีผล...ก่อนอื่นต้องแยกให้ออกว่า "การอธิษฐาน" กับ "การบนบาน"...มันคนละเรื่องกัน คิดง่ายๆกล่าวคือ การตั้งจิตอธิษฐานให้สำเร็จกิจการที่ดีที่ประเสริฐสำหรับตนด้วยกำลังแรงบุญ มิได้ต้องไปกราบกรานบนบานต่อเทพเทวาองค์ใดให้ช่วยเหลือ เพราะนั่นเป็นการติดสินบน...ตอนหนึ่งที่หลวงพ่อพระราชพรหมยานท่านได้เทศนาสอนว่า..."เวลานี้คนมีบารมีมีมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีบารมีสูงสุด คือ ปรมัตถบารมี คนที่มีบารมีเป็นปรมัตถบารมีนั่นคือ คนหวังนิพพาน ถ้ามีบารมีไม่ถึงปรมัตถบารมีจะหวังนิพพานไม่ได้ กำลังใจไม่พอ นี่คนที่หวังนิพพานมีเยอะ แต่บางคนมีบารมีขั้นต่ำลงมา ปรารถนาแค่พรหม นี่ก็เป็น อุปบารมี คนที่บารมีต่ำมากหน่อยปรารถนาแค่สวรรค์ก็เป็น บารมีปกติ ก็ยังถือว่าเป็นความดี บารมีประเภทนี้ดีกว่าบำเพ็ญบารมีลงนรก"...

ทีนี้การบำเพ็ญบารมีเขาทำกันยังไง...คำว่าอธิษฐานบารมี แปลว่าตั้งใจเต็ม เราเต็มใจจะไปสวรรค์ เราเต็มใจจะไปพรหมโลก เราเต็มใจจะไปนิพพาน ก็ตั้งใจไว้ ทำสังฆทานกับพระก็ดี ถวายทานกับพระเป็นส่วนบุคคลก็ดี ให้ทานกับคนก็ดี ให้ทานกับสัตว์ก็ดี เราตั้งใจว่าการกระทำอย่างนี้เราต้องการไปนิพพาน นี่เป็น "อธิษฐานบารมี"...เราต้องการไปพรหมโลกก็เป็นอธิษฐานบารมี เราต้องการไปเกิดบนสวรรค์ก็เป็นอธิษฐานบารมี เราต้องการว่าทานประเภทนี้เราให้ไปแล้วชาติหน้าขอให้รวยใหญ่ก็เป็นอธิษฐานบารมี...ทีนี้ถ้าตั้งใจไว้จริงๆ มันมีผลตามนั้นเพราะกำลังของบุญกุศล...ดังตัวอย่างที่จะเล่าให้ฟังดังนี้...ซึ่งเป็นเรื่องของพระอนุรุทธ...

ถ้ายังไม่ต้องการไปนิพพาน ต้องการรวย เผื่อว่ายังไปไม่ถึงนิพพานก็เอารวยไว้ก่อน แล้วก็ไม่ยอมรวยชาติเดียว ต้องการรวยตั้งแต่ชาตินี้ไปจนกระทั่งถึงนิพพาน..."ถ้าตั้งใจจริงๆ มันจะคล่องตัวตั้งแต่ชาตินี้ไป ฉันเคยทำมาแล้วนะ"...เทศน์นี่เขาห้ามยกตัวเองเป็นตัวอย่าง แต่เมื่อตัวอย่างเคยทำมาแล้วมีผลก็ขอบอกให้ทราบ...นั่นคือเวลาทำบุญทุกอย่างให้ตั้งใจอธิษฐานแบบ "พระอนุรุทธ"...พระอนุรุทธสมัยก่อน ก่อนที่ท่านจะเป็นพระอรหันต์ ในชาติก่อนๆโน้น เวลาทำบุญทุกครั้ง จะใส่บาตรก็ดี จะให้ทานก็ดี จะบูชาพระก็ตาม จะสมาทานศีลก็ตาม จะเจริญกรรมฐานก็ตาม ตั้งใจไว้อย่างเดียวโดยเฉพาะ ความจริงไม่ใช่อย่างเดียวมัน 2 อย่างว่า..."ขอบุญบารมีที่ข้าพเจ้าบำเพ็ญแล้วนี้ ให้เป็นปัจจัยให้เข้าถึงนิพพานโดยง่าย แต่ว่าก่อนที่จะถึงนิพพานเพียงใด ถ้ายังเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะ ขอคำว่าไม่มีจงอย่าปรากฏกับข้าพเจ้า"...

จำกันให้ดีนะ จะต้องไม่อธิบายยาวเหยียด อธิษฐานอย่างโน้น อธิษฐานอย่างนี้มันจะยุ่งกันไปเปล่าๆ ขอคำว่าไม่มีจงอย่าปรากฏกับข้าพเจ้า แค่นี้พอ มันมีทุกอย่าง ทีนี้ตามบาลีท่านเล่าให้ฟังต่อว่า ในสมัยหลังชาติสุดท้าย คือว่าในทุกๆชาติ พระอนุรุทธเกิดทุกๆชาติ ชาติไหนก็ตามถ้าต้องการอย่างไหน ถ้าต้องการอย่างนั้นได้เสมอตามต้องการ ทีนี้มาว่าถึงชาติสุดท้ายมันมีความสำคัญมาก ท่านเกิดเป็นลูกเจ้า เป็นลูกของอาพระพุทธเจ้าเอง ถ้าวัดกันโดยฐานะญาติ พระอนุรุทธเป็นน้องของลูกอาพระพุทธเจ้านั่นเอง คือเป็นน้องพระพุทธเจ้า...

ขนมทิพย์...เมื่อในทุกวันท่านอนุรุทธก็เล่นสนุกกับเพื่อนๆ เมื่อถึงเวลาอาหารแม่ก็ทำขนมส่งไปให้มาเลี้ยงเพื่อนด้วย ทำแบบนี้ทุกวัน ทีนี้ตามธรรมดาโบราณเขาบอกว่า เศรษฐีย่อมขาดไฟฉันใด คนที่มีฐานะดีๆ บางครั้งบางสิ่งบางอย่างก็ขาดเหมือนกัน เป็นอันว่าวันนั้นอุปกรณ์ในการทำขนมไม่มี เมื่อถึงเวลาจะเลี้ยงเพื่อน ท่านอนุรุทธได้บอกให้คนใช้ไปบอกแม่ บอกว่าเวลานี้ต้องการขนมจะมากินเอง จะเลี้ยงเพื่อนด้วย แม่ก็บอกคนใช้ไปว่า วันนี้ขนมไม่มีเพราะขาดอุปกรณ์...ท่านอนุรุทธท่าน ไม่เคยมีคำว่าไม่มี ลูกเจ้ามันมีทุกอย่าง ก็เลยส่งคนใช้บอกว่าขนมไม่มีก็เอา จะกินขนมไม่มี...บอกว่าขนมไม่มีก็เอา แม่ก็เลยคิดในใจว่า ลูกของเราเป็นลูกเจ้า มีฐานะดี ไม่เคยขาดทุกสิ่งทุกอย่าง แต่วันนี้มันขาด วันนี้อยากจะสอนให้ลูกชายรู้จักคำว่า "ไม่มี"...จึงนำถาดเปล่าๆ แล้วส่งให้คนใช้แบกไป บอกให้ลูกชายฉัน เขาจะได้รู้จักคำว่าไม่มี...



ก็เป็นการบังเอิญอย่างยิ่งบรรดาท่านพุทธบริษัทชายหญิง จะถือว่าบังเอิญก็ไม่ได้เพราะว่าคำว่า..."อธิษฐานบารมีถ้าบุคคลใดทำจริง เทวดาต้องอารักขา เทวดาอารักขาจะช่วยให้เป็นไปตามนั้น"...ไม่ใช่เราคนเดียวนะ เทวดาประจำตัวเขาต้องทำด้วย เพราะว่าทุกคนที่เกิดมานี่มีเทวดารักษาตัวทุกคน ไม่ใช่รักษาองค์เดียว คนหนึ่งมีเทวดารักษาตัวหลายองค์ ขณะที่คนใช้แบกถาดไปนั่นเทวดาที่รักษาตัวก็คิดไปว่า ถ้าวันนี้พระอนุรุทธไม่มีขนมกิน เราพวกเทวดาอารักจะต้องหัวแตก 7 เสี่ยง ก็แย่ซิ...เทวดาก็ตายไม่ได้ ถ้าตายไม่ได้ยังไม่ถึงเวลาจะตายต้องหัวแตก 7 เสี่ยง ก็เจ็บแย่ใช่ไหมล่ะ ไม่ได้การเราจะไม่ยอมให้มีโทษอย่างนี้ จึงเนรมิตขนมทิพย์ใส่ให้เต็มถาด พอคนใช้นำขนมไม่มีไปให้ ท่านก็เปิดฝาดู กลิ่นมันก็หอม หอมกว่าขนมธรรมดา เวลากินก็อร่อยกว่าขนมธรรมดา ลิ้นชุ่มชื่น ก็แบ่งให้เพื่อนกิน...

พอตอนเย็นท่านกลับมาบ้านก็ถามแม่ว่า..."เจ้าแม่...วันก่อนๆ แม่ไม่เคยรักลูกเท่าวันนี้หรือ...?"...
แม่ก็ถามว่า...ยังไง...บอกว่าขนมไม่มี ทำไมแม่ไม่เคยทำให้กินเลยล่ะ ทำขนมอย่างอื่นให้กินมันอร่อยเท่าขนมไม่มีไม่ได้  แม่เลยสอบสวนถามว่าเรื่องความเป็นยังไง ท่านบอกว่าถาดที่ให้ไปขนมมันเต็มหมด กลิ่นมันก็หอมยวนใจอยากจะกิน กินแล้วก็อร่อยมาก ทีนี้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปขนมอื่นไม่กินนะแม่นะ ขอกินขนมไม่มีอย่างเดียว...ก็รวมความว่าแม่สบาย เทวดาทำทุกวัน ท่านก็ล่อขนมไม่มีทุกวัน นี่อธิษฐานบารมีนะ อย่าลืมนะ คำว่าอธิษฐานบารมีก็คือตั้งใจไว้อย่างใดอย่างหนึ่ง ให้จำไว้ ถ้าพูดถึงบารมี บอกแหม...มันยากเหลือเกินๆ ความจริงไม่ยาก ถ้าโง่มาก จะยากมาก โง่น้อย ยากน้อย ฉลาดมาก ง่ายมาก ฉลาดน้อยก็เรียกว่าง่ายน้อยลงไป

กัลยาณมิตรท่านใดที่ยังไม่เคยทราบเรื่องราวแบบนี้มาก่อนก็ลองนำพระธรรมเทศนาขององค์หลวงพ่อท่านไปประพฤติปฏิบัติกันดูนะครับ ไม่ยากไม่เย็นอะไรเลย เพียงแต่ค่อยๆฝึกค่อยๆทำ ความคล่องตัวก็จะได้เกิดขึ้น...หลังทำบุญกุศลทุกๆครั้ง ตั้งจิตอธิษฐานทันที...ต้องการ หรือปรารถนาสิ่งใดอันประเสริฐ...ในทุกภพทุกชาตินับจากนี้ ก่อนจะถึงซึ่งพระนิพพาน ก็จัดไปครับ...ดังนั้น...อธิษฐานบารมี...คือ 1 ในทศบารมีที่ไม่ควรมองข้าม...!!!

ที่มา : หนังสือ คำสอนหลวงพ่อวัดท่าซุง 21

นำเสนอโดย :
http://dharmaishere.blogspot.com
https://www.facebook.com/kanlakraung1.sport
https://www.facebook.com/kanlakraung1.story

7 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ20 มกราคม 2558 เวลา 12:26

    สาธุ สาธุ สาธุค่ะ..คุณเพื่อน ^_^

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ขอบคุณครับคุรหยิง สาธุ สาธุ สาธุ

      ลบ
  2. "ธรรมะ"บางคนบอกน่าเบื่ออ่านแล้วพาง่วง บางคนเห็นเป็นของดีมีค่ายิ่ง
    เพราะธรรมะเป็นของพบเจอและเข้าใจได้ยาก ขอบคุณผู้นำเสนอ ขอให้ธรรมคุ้มครองค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. เช่นกันนะครับคุณทิพย์ ขอบคุณที่ติดตามให้กำลังใจจ้า

      ลบ
  3. พระอนุรุทธะ เป็นน้องของพระมหานาม กษัตริยองค์สุดท้ายของ ตระกูลศากยะ ก่อนที่จะโดนเผาทำลาย

    ตอบลบ
  4. พระอนุรุทธะ เป็นน้องของพระมหานาม กษัตริยองค์สุดท้ายของ ตระกูลศากยะ ก่อนที่จะโดนเผาทำลาย

    ตอบลบ
  5. จะผ่านไปเป็นสิบๆปีหรือแค่วันวานก็ดีแก่ใจเสมอ ขอบคุณและอนุโมทนาค่ะ

    ตอบลบ