จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันอังคารที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2558

ธรรมะ...พระนางสามาวดีอุบาสิกา "ผู้อยู่ด้วยเมตตา" (ตอนที่ 5)...!!!

ความต่อจากตอนที่ 4...
          นางพราหมณีได้นึกถึงมนต์ดูลักษณะ พิจารณาดูลักษณะแห่งรอยพระบาท เพราะความที่ตนเป็นผู้ชำนาญในวิชาไตรเพท พร้อมทั้งมนต์สำหรับทายลักษณะ จึงกล่าวต่อผู้เป็นสามีว่า "ท่านพราหมณ์...รอยเท้านี้มิใช่รอยเท้าของผู้เสพกามคุณ 5 ( รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส )"...ว่าดังนี้แล้วจึงกล่าวคาถา คือ คำประพันธ์ประเภทร้อยกรองในภาษาบาลีว่า...

          "คนเจ้าราคะ พึงมีรอยเส้ากระหย่งกลาง (เว้ากลาง)
            คนเจ้าโทสะ มีรอยเท้าหนักส้น
            คนเจ้าโมหะ มีรอยเท้าจิกลง (หนักทางปลายนิ้วเท้า)
            คนมีกิเลสเครื่องมุงบังอันเปิดแล้ว มีรอยเท้าเช่นนี้"

เมื่อนั้นมาคันทิยพราหมณ์จึงกล่าวกับนางพราหมณ๊ว่า "นี่แน่ะเธอ!...เธอเห็นมนต์เหมือนกับเห็นจระเข้ในตุ่มน้ำ เหมือนกับโจรอยู่ท่ามกลางเรือน เธอจงนิ่งเสียเถิด!"...
นางพราหมณีจึงกล่าวว่า "ท่านพราหมณ์!...ท่านต้องการจะพูดคำใดก็จงพูดคำนั้น แต่รอยเท้านี้ของผู้เสพกามคุณ 5"...เมื่อมาคันทิยพราหมณ์เหลียวไปเห็นพระบรมศาสดา จึงบอกว่า "นี้คือบุรุษผู้นั้น!"...และได้กล่าวต่อพระบรมศาสดาว่า "ท่านสมณะ...ข้าพเจ้าขอยกลูกสาวให้ท่านเลี้ยง"...

พระบรมศาสดามิได้ตรัสตอบว่า "เรามีความต้องการธิดาของท่าน" หรือ "ไม่มีความต้องการ" หากแต่ตรัสว่า "ดูก่อนพราหมณ์!...ตถาคตจะเล่าเหตุการณ์อย่างหนึ่งให้ฟัง..." มาคันทิยพราหมณ์ตอบว่า "จงเล่าเถิด...ท่านสมณะ"...พระบรมศาสดาจึงทรงเล่าเรื่องที่มารติดตามพระองค์ ตั้งแต่เสด็จออกผนวช จนกระทั่งถึงที่ประทับกายใต้ต้นอชปาลนิโครธ และเรื่องธิดามารทั้งหลายผู้รับอาสามาประเล้าประโลมพระองค์ เพื่อดับความเศร้าโศกของพระยามารนั้น ผู้มีความกระวนกระวายด้วยความโศกาอาดูรอยู่ว่า "บัดนี้...พระสิทธัตถะได้ล่วงวิสัยของเราไปแล้ว!"...โดยธิดามารเหล่านั้นประกอบขึ้นด้วย เพศนางกุมารีเป็นต้น แล้วตรัสพระคาถาธรรมะ ดังนี้...



          "เรามิได้มีแม้ความพอใจในเมถุน เพราะเห็นนางตัณหา นางอรดีและนางราคา  ไฉนเล่า...จะมีความพอใจเพราะเห็นธิดาของท่านนี้ ที่เต็มไปด้วยน้ำมูตร และอุจจาระ เร้าไม่ปรารถนาจะถูกต้องธิดาของท่านแม้ด้วยเท้า!"...ในเวลาที่พระบรมศาสดาตรัสพระคาถาจบ มาคันทิยพราหมณ์ และนางพราหมณี ได้สำเร็จพระอนาคามีผล  ฝ่ายนางมาคันทิยา ผู้เป็นลูกสาว ได้ผูกอาฆาตพระบรมศาสดาว่า "หากสมณะนี้ไม่มีความต้องการเรา ก็ควรบอกว่า "เราไม่ต้องการ" แต่สมณะนี้ได้ตำหนิเราว่า "เป็นผู้เต็มไปด้วยน้ำมูตรและอุจจาระ"...เอาเถอะ!...ถ้าเราได้ภัสดาที่สมควรเพราะอาศัยชาติ ตระกูล ประเทศ โภคทรัพย์ ยศและวัยของเราแล้ว เราจะแก้แค้นพระสมณะโคดมให้ได้!...มีคำตอบว่า พระบรมศาสดาทรงทราบดี!...มีคำถามว่า เมื่อพระพุทธองค์ทรงทราบ เหตุไฉนจึงตรัสอย่างนั้น?...เหตุที่พระพุทธองค์ทรงตรัสอย่างนั้น เพื่อจะโปรดมาคันทิยพราหมณ์และนางพราหมณี...

ธรรมดาพระพุทธเจ้า ทั้งหลาย ไม่ทรงคำนึงถึงความผูกอาฆาต ย่อมแสดงธรรมะ ตามอำนาจของบุคคล ผู้ควรแก่การสำเร็จมรรคผลเท่านั้น...มาคันทิยพราหมณ์และนางพราหมณี ผู้เป็นบิดา มารดาของนางมาคันทิยา ได้นำนางมาคันทิยาไปฝากไว้กับจูฬมาคันทิยะผู้เป็นน้องชาย ที่มีศักดิ์เป็นอาของนางมาคันทิยา  จากนั้นมาคันทิยพราหมณ์และนางพราหมณี ได้พากันไปเข้าเฝ้าพระบรมศาสดา และได้บรรพชา แล้วได้บรรลุพระอรหัตผล คือ ความเป็นผู้ไกลจากข้าศึก หรือ กิเลส เป็น พระอรหันต์ทั้ง 2 คน...เหตุการณ์จะดำเนินต่อไปเช่นไร โปรดติดตามในตอนที่ 6...!!
ผู้ใดมีธรรมะภายในใจ ผู้นั้นย่อมมีธรรมรักษา : ธัมโม หเว รักขติ ธัมมจารี

ที่มา : หนังสือ "พระนางสามาวดีอุบาสิกา ผู้เป็นเลิศด้าน "ผู้อยู่ด้วยเมตตา"
เรียบเรียงโดย : อ.จำเนียร ทรงฤกษ์ ( วัดสังฆทาน )
นำเสนอโดย :
http://dharmaishere.blogspot.com
https://www.facebook.com/kanlakraung1.sport
https://www.facebook.com/kanlakraung1.story


0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น