จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันเสาร์ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2558

นิทานธรรม..."หินลับปัญญา"...พาสุขใจ...!!!

          ก่อนจะเล่านิทานเรื่องหนึ่งที่มีความน่าสนใจไม่น้อย ผมขอบอกความหมายของคำว่า "หินลับปัญญา" เสียก่อน...'ความหมายของมันคือ การหมั่นสร้างสรรค์สติปัญญาของตนให้มีความฉับไวในการหมุนทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิต'...ไม่ว่าจะเป็นขยะหรือปุ๋ย ให้เป็นคุณประโยชน์ต่อตนและผู้อื่น"...

ต่อจากนี้ไปก็มาเข้าเรื่องของนิทานที่ผมไปอ่านเจอ จากหนังสือเล่มหนึ่ง  เมื่ออ่านเนื้อหาของเรื่องแล้ว รู้สึกอยากจะแบ่งปันไปสู่กัลยาณมิตรทุกๆท่าน จึงจัดการเปิดคอมพิวเตอร์แล้วลงมือพิมพ์เรื่องราวของนิทานทันที...ดังที่ทุกท่านจะได้อ่านต่อไปนี้...มีหลวงตาองค์หนึ่งท่านมี "ปั้นน้ำชา" ลายครามอยู่ชุดหนึ่ง ซึ่งโยมอุปัฏฐากเอามาถวายแล้วขอให้ท่านนำมาใช้บ่อยๆเพื่อให้เขาได้บุญ  เช้าขึ้นมาหลวงตาก็ต้องคอยบอกเด็กที่ดูแลว่า "เจ้าจงดูแล ปั้นน้ำชาดีๆนะ...อย่าไปทำมันแตก!"...

http://dharmaishere.blogspot.com


ปรากฏว่าวันหนึ่ง เด็กทำปั้นน้ำชาแตกตั้งแต่เช้าก่อนที่หลวงตาจะออกจากห้อง เด็กก็ใจไม่ดี วันนี้คงต้องโดนหลวงตาดุเป็นแน่ เพราะหลวงตาจะคอยสั่งทุกเช้าค่ำว่าให้ดูแลให้ดี เจ้าของต้องการให้ใช้ได้นานๆ เพื่อเป็นบุญเป็นกุศลให้เขา...พอหลวงตาออกมา เด็กก็ถามว่า "หลวงตาครับ หลวงตาเป็นคนสอนว่าอะไรๆก็ให้ปล่อยวางทั้งหมด อะไรๆมีก็เหมือนไม่มี ใช่ไหมครับ?"...หลวงตาก็งง วันนี้ทำไมลูกศิษย์เกิดจะมาสอนธรรมเรา เด็กถามต่อไปว่า "แล้วหลวงตาทำอย่างนี้ได้หรือเปล่า ทำอยู่ตลอดเวลาหรือเปล่าครับ?"...หลวงตาก็ซักไซ้ไปมาจนเด็กสารภาพว่า "ปั้นน้ำชาของหลวงตา มีก็เหมือนไม่มี เพราะมันแตกไปเสียแล้ว"...เมื่อลูกศิษย์พูดจบ หลวงตาท่านก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะจริงๆแล้ว ท่านก็เห็นอย่างนี้...

ตั้งแต่ได้ปั้นน้ำชามา ท่านก็ตั้งในใจเอาไว้ว่า "มันแตกเรียบร้อยไปแล้ว"...ถ้าไปยึดว่าปั้นอันนี้เป็นปั้นลายคราม มีค่ามีราคา ใจมันจะต้องกระเพื่อมทุกวี่ทุกวัน ได้ยินเสียง "เพล๊ง!"...เมื่อไหร่ ก็จะต้องคอยถามว่า "ปั้นน้ำชาแตกหรือเปล่า"...แต่เมื่อทำใจตั้งแต่วันแรกที่เขาเอามาถวายแล้วว่า...ปั้นอันนี้มีได้ก็แตกได้...จึงมองเหมือนปั้นแตกอยู่ทุกวัน แต่ตราบเท่าที่ยังไม่แตก ก็ต้องคอยดูแลรักษา แผ่ส่วนกุศลให้เจ้าของได้บุญไป...ดังนั้นเมื่อลูกศิษย์ได้บอกว่า ปั้นมีก็เหมือนไม่มี เพราะแตกไปเสียแล้ว หลวงตาก็ปลดก็วางตามสภาพความเป็นจริง ท่านรำพึง "โล่งใจเสียที"...แต่นี้ต่อไป คงหมดหน้าที่ในการรักษาสมบัติชิ้นนี้ ซึ่งทำให้ท่านเป็นภาระเหน็ดเหนื่อยมานานแล้ว...

หลวงตาท่าน ใช้ทุกอย่างเป็นหินลับปัญญาอย่างดีที่สุด คือ ท่านเห็นเสียก่อนที่มันจะเป็นไป เมื่อ ไตรลักษณ์ ปรากฏขึ้นจริง การเปลี่ยนแปลง ความไม่เที่ยง จึงไม่ทำให้ท่านเป็นทุกข์ เพราะใจของท่านเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ก่อนที่จะเกิดขึ้น...นิทานธรรมในแบบฉบับของหินลับปัญญาในเรื่องนี้ ทำให้เรามองย้อนมาสอนตนเองได้ เราไม่อยากแก่ เรากลัวความแก่ กลัวความเจ็บ กลัวความตาย เรามองตัวเองทุกวัน แต่มองทีไรก็เห็นตัวเองยังหนุ่มยังสาวอยู่ ก็ให้เราไปมองคนแก่คนเฒ่าหรือคนเจ็บ แล้วเอาความแก่ความเจ็บไข้ มาใส่เข้าไปในตัวเรา ว่าจริงๆแล้ว เรากับเขาก็เหมือนกัน....เมื่อปล่อยได้ วางได้เช่นนี้แล้ว หากใจไม่เป็นทุกข์ แต่กลับมีความอิ่มเอิบ ...มันจึงพาความสุขใจมาให้เจ้าของ นี่แหละ...หินลับปัญญา...!!!

ที่มา : หนังสือหินลับปัญญา โดย : อมรา มลิลา
นำเสนอโดย :
http://dharmaishere.blogspot.com
https://www.facebook.com/kanlakraung1.sport
https://www.facebook.com/kanlakraung1.story

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น